บทที่ 5 การตั้งเป้าหมายของชีวิตและการทำงาน
ความหมายของเป้าหมาย
การกำหนดเป้าหมาย (Goal) เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิตและการทำงาน เป็นเครื่องชี้ทิศทาง
เป็นเสาหลักบอกถึงความสำเร็จและความก้าวหน้าของชีวิตและการทำงาน
มีผู้ให้คำนิยามของคำว่า เป้าหมาย ไว้หลายคน ดังนี้
แอลดากและคาซูฮารา (Aldag &
Kazuhara, 2001, p 253) นิยามคำว่า เป้าหมาย หมายถึง
ผลตอนสุดท้ายหลังที่ต้องการ จากการทุ่มเทพลังบางอย่างไป
ในขณะที่ โรอุย์ลาร์ด (Rouillard,
1993. p. 31) อธิบายว่า เป้าหมาย คือความสำเร็จที่ตั้งใจไว้
ส่วนวาล์แลสและมาสเตอร์ (Wallace & Masters, 2002, p. 19)
อธิบายว่า เป้าหมาย เป็นความฝันที่มีเส้นตาย คือฝันว่าต้องการได้ ต้องการอะไร
หรือทำอะไรแล้ว จึงกำหนดวันสำเร็จไว้ด้วย เช่น อ่านหนังสือสามก๊กจบภายใน 7 วัน
เบรชท์ (Brecht, 1996, p. 13) กล่าวว่า เป้าหมาย มีความหมายว่าเต็มไปด้วยเป้าประสงค์
ประสงค์เพิ่มพูนคุณภาพชีวิต ช่วยให้คนได้รับความสำเร็จในชีวิต
ช่วยให้คนอยากทำสิ่งที่ดีในชีวิต เป็นความท้าทาย
เป็นแผนเป็นขั้นเป็นตอนที่จะนำไปสู่เป้าหมายอื่นๆ
ฮิลเกอร์และฮานส์ (Hilger &
Hans, 1994) นิยามเป้าหมายไว้ว่า แผนการปฏิบัติ เป็นถ้อยแถลง
หรือข้อความที่แสดงความปรารถนา ที่เติมเต็มความจำเป็นที่สำคัญ
โดยการทำงานต่างๆให้สำเร็จ ที่เรียกว่างานตามเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม มีคำที่มีความหมายใกล้เคียงกับคำว่าเป้าหมายอยู่หลายคำ คือ purpose, Objective, Goal, Ain, Target และ Theme จึงขออธิบาย ดังนี้
เป้าประสงค์ –
Purpose คือ
ผลสุดท้ายที่ต้องการให้สำเร็จเนื่องจากการกำหนดไว้แต่แรกของการกระทำการ
กำหนดไว้ตั้งแต่แรกของการจัดตั้งหน่วยงานนั้น เช่น
เป้าประสงค์ในการตั้งหน่วยงานขึ้นมาเพื่อให้คนรักการอ่านหนังสือการ์ตูน
วัตถุประสงค์ – Objective เป็นความมุ่งมั่นที่จะไปสู่
หรือผลสุดท้ายโดยรวมที่กระทำการให้ได้ตามที่ตั้งใจไว้ เช่น
ให้มีคนอ่านหนังสือการ์ตูนมากขึ้น เป็นภาพแห่งความสำเร็จโดยรวมของการกระทำ
เป้าหมาย – Goal เป็นผลที่เฉพาะเจาะจง วัดได้ โดยมากจะมีเวลามากำหนดไว้ด้วย เช่น
มีคนอ่านหนังสือการ์ตูนเพิ่มขึ้น 30 คน ในเดือนหน้า
ส่วนคำว่า จุดมุ่งหมาย จุดหมาย เข็มมุ่ง
มีความหมายดังนี้
จุดมุ่งหมาย – Aim เป็นคำแสดงว่าการบรรลุผลที่ต้องการ บางทีใช้เหมือนคำว่า Objective บางครั้งก็ใช้เหมือนคำว่าเป้าหมาย
จุดหมาย – Target บางครั้งใช้คำว่า
เป้าหมาย บางครั้งใช้แทนคำว่า จุดหมาย จุดหมายปลายทาง
เข็มมุ่ง – Theme มีความหมายถึง ความพยายามกระทำในโครงการหรือขอบเขตหนึ่งๆ
เรามักใช้คำว่า
เป้าหมายกับวัตถุประสงค์สลับที่กัน
ดังเช่นการใช้คำว่าเป้าหมายที่ให้ทิศทางแก่การตัดสินใจทางการบริหาร ก่อรูปเป็นเกณฑ์แห่งความสำเร็จของงานซึ่งสามารถวัดได้
ส่วนวัตถุประสงค์ เป็นความมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึง เป็นความต้องการที่ตั้งใจ
อย่างไรก็ตาม
มีคำที่องค์การมักใช้บ่อยๆอยู่ 3 คำ ด้วยกัน ซึ่งในองค์การหนึ่งนั้นต้องมีเป้าประสงค์ในตอนก่อตั้ง
เช่น สถานศึกษามีเป้าประสงค์เพื่อสร้างทรัพยากรมนุษย์
ในปีการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ให้คนเข้าเรียนวิชาการบริหารมากขึ้น
โดยกำหนดเป้าหมายให้มีคนเรียนภาคการศึกษาละ 50 คน
สรุปได้ว่า องค์การก่อตั้งขึ้นมาจะมีเป้าประสงค์ (Purpose) ว่าต้องการบรรลุอะไร
ต่อมาเมื่อการกำหนดยุทธศาสตร์การทำงาน จะวางวัตถุประสงค์ (Objective) ให้ทอดรับกับเป้าประสงค์
ซึ่งในขั้นยุทธวิธีจะกำหนดเป้าหมายทอดรับกับวัตถุประสงค์
สำหรับการตรวจประเมินถึงความสำเร็จของการปฏิบัติงานนั้นๆ
อาจแบ่งเป้าหมายเป็นเป้าหมายส่วนบุคคลกับเป้าหมายขององค์การ
ความสำคัญของเป้าหมาย
เป้าหมายให้ทิศทางในการดำรงชีวิตและการปฏิบัติงาน
ให้รู้ว่าเดินทางไปถึงจุดใดชี้ให้เห็นระดับวุฒิภาวะ และปรับดุลยภาพของชีวิต ดังที่
เบรชท์ (Brecht, 1996, pp. 2-5) ได้ให้ความสำคัญของเป้าหมายไว้ หลายประการ คือ
1.) เป้าหมายให้จุดหมายในชีวิต
เมื่อคนรู้ว่าต้องการอะไรจากชีวิตจะพยายามทำอย่า
ดีที่สุดในการบรรลุสิ่งนั้น
เพราะรู้ว่าสิ่งนั้นจะให้ผลประโยชน์
2.) เป้าหมายเป็นป้ายบอกทางให้ชีวิต
จะรู้อย่างไรว่าชีวิตของตนเดินได้ถูกทาง ทางที่ต้องการไปต้องการทำ
การทำเป้าหมายให้สำเร็จไปเรื่อยๆตลอดทางทำให้รู้ว่าเดินไปได้ถูกทาง เพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่าหรือสำคัญกว่าซึ่งอยู่ข้างหน้า
3.) เป้าหมายช่วยสร้างความเชื่อมั่นในตนเองให้แข็งแกร่งขึ้น
เมื่อได้รับความสำเร็จ “เออ
ฉันทำได้แล้ว ทำได้ดีจริง” จะรู้สึกภูมิใจ
เชื่อว่าชีวิตมีความหมาย เมื่อคนอื่นรู้ก็ยังให้คำชม
4,) เป้าหมายชี้ให้เห็นระดับวุฒิภาวะ
เป้าหมายที่ตั้งช่วยให้รู้ว่ามีความเป็นผู้ใหญ่ หรือเติบโตเพียงใด
บางคนตั้งเป้าหมายที่เหมาะกับเมื่อสิบปีที่แล้ว แล้วยังไม่ได้ไปถึงไหน
ถ้าไม่ได้ยกระดับเป้าหมายก็หมายความว่ายังย่ำอยู่กับที่
ควรยกระดับเป้าหมายของชีวิตให้ได้ดุลกัน 6 ด้าน คือ
4.1) ร่างกาย-สุขภาพ
4.2) สติปัญญา-การศึกษา
4.3) การเงิน-อาชีพ
4.4) ครอบครัว-บ้านเรือน
4.5) จิตวิญญาณ-จริยธรรม
4.6) สังคม-วัฒนธรรม
5.) เป้าหมายช่วยให้บรรลุดุลยภาพแห่งชีวิต
ชีวิตมีเป้าหมายหลายอย่างที่ต้องทำให้สำเร็จ การตั้งเป้าหมายที่คลุมทุกด้านของชีวิต
คือ ร่างกาย-สุขภาพ, สติปัญญา-การศึกษา, การเงิน-อาชีพ,
ครอบครัว-บ้านเรือน, จิตวิญญาณ-จริยธรรม, สังคม-วัฒนธรรม
ทำให้ชีวิตได้ไปอย่างสมดุลในด้านต่างๆของชีวิต ชีวิตประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง
เมื่อบรรลุเป้าหมายด้านต่างๆอย่างไดดุลยภาพ นั่นอาจเรียกว่าเป็นคน “เก่ง”
6.) เป้าหมายช่วยให้จัดการกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิต
สามารถควบคุมการเปลี่ยนแปลงหรือปรับชีวิตให้เหมาะแก่เหตุการณ์ที่กระทบได้อย่างรู้เท่าทัน
รับรู้สิ่งผ่านพบ เปลี่ยนลำดับ ความสำคัญ
ตั้งเป้าหมายได้ต่างออกไปได้เหมาะสมแก่สถานการณ์
อุปสรรคขวางกั้นการบรรลุเป้าหมาย
เมื่อตั้งเป้าหมายแล้ว
หากสามารถบรรลุผลตามที่ต้องการได้ ก็จะสร้างความมั่นใจให้แก่ตนเอง
มีใจดำเนินการต่อไป จะได้ถึงเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น ทำไมบางทีชีวิตจึงไม่ได้ไปถึงไหน
อะไรบ้างที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นการบรรลุเป้าหมาย
อุปสรรคที่ 1 ไม่ตั้งเป้าหมาย
อุปสรรคที่ 2 ไม่เคยได้เรียนรู้วิธีการ
อุปสรรคที่ 3 เคยลองแล้วพลาด
อุปสรรคที่ 4 ความเชื่อมั่นในตนเองต่ำ
อุปสรรคที่ 5 ชีวิตนี้คงไม่มีหวัง
อุปสรรคที่ 6 ไม่อยาก
อุปสรรคที่ 7 เป้าหมายของคนอื่น
อุปสรรคที่ 8 โซนสบาย
อุปสรรคที่ 9 เป้าหมายไม่สมจริง
อุปสรรคที่ 10 หวังพึ่งคนอื่นให้บรรลุเป้าหมายแทน
อุปสรรคที่ 11 คนอื่นพยายามขัดขวาง
อุปสรรคที่ 12 ไม่จริงจังกับเป้าหมาย
ทวีตัวขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จ
ในการปฏิบัติงานให้ได้รับความสำเร็จ
เป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝันต้องการให้เป็น ต้องการให้มี จึงมีหลายสิ่งที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้คนได้รับความสำเร็จ
ซึ่งตรงกับแนวคิดของฮอดเกทท์ส (Hodgetts,1996) กล่าวว่า
คนจะได้รับความสำเร็จ ควรมีขั้นตอนปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
1.) เขียนเป้าหมายลงไว้
การเขียนเป้าหมายเป็นลายลักษณ์อักษรให้ประโยชน์ 2 ประการ
1.1) ประการแรก บังคับให้คิด ทำให้ความคิดกระจ่าง อะไรแน่ที่ต้องการบรรลุ
1.2) ประการที่ 2 ให้การเปรียบเทียบความก้าวหน้าที่ต้องการกับความเป็นจริง
2.) ตั้งเป้าหมายที่ท้าทายแต่สามารถไปถึงได้
ถ้าเป้าหมายเป็นสิ่งที่บรรลุง่ายเกินไปก็ได้หรือรับความสำเร็จไม่มาก ถ้ายากไปก็ท้อแท้หรือไม่อาจไปถึงได้
เลือกเป้าหมายที่จะยืดตัวยืดความสามารถของตน ทว่าอยู่ในเอื้อมมือคว้า
เป้าหมายจะเป็นเครื่องมือแห่งการเรียนรู้ ช่วยให้เจริญเติบโต
รู้ทิศทางและเส้นทางแห่งความก้าวหน้าของการกระทำ
3.) มั่นใจว่าเป้าหมายสอดคล้องกัน
ถ้าเป้าหมายไม่สอดคล้อง การทำงานไขว้เขว เช่น
ต้องการเพิ่มยอดขายเป็นสองเท่าไตรมาสนี้ อีกเป้าหมายหนึ่ง
ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและงบรับรองลง 30% ซึ่งในความจริง
ยอดค่าใช้จ่ายควรเพิ่มขึ้นเนื่องจากต้องเดินทางมากขึ้นรับรองลูกค้ามากขึ้น
4.) มีเป้าหมายที่แน่ชัด
เช่น ลดค่าใช้จ่ายลงร้อยละ 7 เพิ่มยอดขายร้อยละ 9 เพิ่มจำนวนนักขายเป็น 22 คน
เขียนให้เฉพาะเจาะจงและวัดได้
5.) วางกำหนดเวลาไว้ด้วย
ผูกเป้าหมายไว้กับเวลา ให้รู้ความก้าวหน้า
ให้รู้ว่าห่างไกลอีกเพียงใดจึงบรรลุผลที่ตั้งไว้ ช่วยให้ติดตามรอยกสนเดินทาง
ถ้ายังล้าหลังก็จะสามารถชี้ได้ว่าผิดตรงไหนผิดเมื่อไร
6.) วางกำหนดลำดับความสำคัญ
ดูว่าเป้าหมายใดจะต้องบรรลุก่อน ขั้นตอนใดจะทำให้บรรลุเป้าหมายได้
ถ้าต้องการเพิ่มยอดขายให้รวดเร็วที่สุด ก็จัดการเป้าหมายนี้ก่อน
ถ้าเป้าหมายใดรอไปถึงเดือนหน้าได้ เดือนหน้าค่อยมาทำ อย่างไรก็ตาม
ให้คำนึงถึงคติที่ว่า “ทำงานพรุ่งนี้ตั้งแต่วันนี้” ไว้ด้วย
7.) ทบทวนและแก้ไขเป้าหมาย
มองรายการเป้าหมายทุกสามเดือน (ไตรมาส) ดูว่าทำได้ดีเพียงใด มีเป้าหมายใดบรรลุแล้ว
จะตัดออกหรือขยับเป้าหมายให้สูงขึ้น มีเป้าหมายใดที่จำต้องเปลี่ยนแปลงบ้าง
มีเป้าหมายใหม่ใดที่ต้องเพิ่มบ้าง กระบวนการนี้จะช่วยให้เน้นที่เป้าหมายได้ถูกต้อง
ดำเนินการได้ถูกทิศทาง
8.) ให้รางวัลตนเอง
ทุกครั้งที่บรรลุเป้าหมายใดเป้าหมายหนึ่ง จงให้รางวัลแก่ตนเอง
เมื่อปิดการขายรายใหญ่ได้ ปรนนิบัติตนเองด้วยการกินอาหารเย็นที่อร่อย หรือ
ซื้อชุดที่หมายตามองไว้ การให้รางวัลตนเองจะกระตุ้นให้ใช้พลังของตนอย่างเต็มที่
พึงจำไว้ว่าคนที่ได้รับความสำเร็จต้องเป็นคนที่ดีต่อเอง
ถ้ามีผู้ใต้บังคับบัญชาทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดดี
ก็ควรให้รางวัลในทางที่จะเสริมแรงให้สร้างผลการปฏิบัติงานที่ดีซ้ำแล้วซ้ำอีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น